Last updated: 25 พ.ย. 2564 | 2467 จำนวนผู้เข้าชม |
พระผู้มีพระภาคตรัสกับมารว่า
“พระอริยสาวกย่อมเบื่อหน่าย ใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อย่างนี้ว่า เราไม่ใช่นั่น นั่นไม่ใช่ของเรา แม้มารและเสนามาร แสวงหาอยู่ในที่ทั้งปวง ก็ไม่พบอริยสาวกผู้เบื่อหน่ายแล้ว อย่างนี้ มีอัตภาพอันเกษม ล่วงพ้นสังโยชน์ทั้งปวงแล้ว”
มารผู้มีใจบาป เป็นทุกข์เสียใจว่าพระผู้มีพระภาค ทรงรู้จักเรา จึงได้หายไปในที่นั้น
--------------------------------
ดังนั้น เมื่อเรา " รู้แล้วว่า " สิ่งนี้เป็นมารที่แฝงเข้ามาในรูปแบบ ความคิด อารมณ์ ..
เราจึงสอนบอกไปในลักษณะที่ “รู้จัก” แต่จิตตนเองไม่ได้เป็นอะไร
เป็นเพียงอารมณ์มารที่เข้ามาแทรกเท่านั้น
เพราะมารจะเข้ามาแทรก เป็นความคิด แต่เรามองไม่เห็นตัว
บางครั้งจะรู้สึกรุนแรงมาก จนอยากจะทำร้ายผู้อื่น
ทั้งที่บางครั้งเขาก็ผิดเพียงเล็กน้อย แม้แต่ตัวเราเองยังแปลกใจ “โกรธเขาทำไม โกรธก็เป็นทุกข์”
ที่สอน ..สอนตัวมาร ไม่ใช่สอนตัวเรา
เหมือนดูละคร .. เหล่าวิญญาณเข้ามาพูด เขาจะได้ยินเสียงเหมือนเป็นความคิดของเขาเอง
ถ้าไปเชื่อ ก็ไปทำร้ายผู้อื่น เป็นการก่อเวรไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ถ้ารู้จักความคิดนั้น ไม่ใช่ตัวเราเอง ก็สามารถหลุดจากอำนาจความคิดที่ครอบงำ
และจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
จุดนี้สำคัญมาก จะทำให้จิตคลายจากการเพ่งความผิดได้เร็ว
แล้วเราก็น้อมขอบคุณที่ทำให้เราได้เห็น แล้วก็แผ่เมตตา“ขอให้เป็นสุข”
นี่แหละ ชนะสงครามอันยิ่งใหญ่
ชื่อว่าเป็นยอดนักรบในสงครามที่มีใจเป็นสมรภูมิ
รบชนะด้วยเมตตา ชนะด้วยการให้อภัย
รบด้วยอาวุธ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ..
ชนะแล้วไม่กลับมาแพ้อีก
4 ก.พ. 2567
29 พ.ค. 2567
21 มี.ค. 2565
22 มี.ค. 2565