Admin

Admin

ผู้ดูแล

  เรื่องปีชงค่ะ (4539 อ่าน)

7 ก.พ. 2561 22:52

กราบนมัสการถามพระอาจารย์เรื่องความเชื่่อเกี่ยวกับปีชง ว่าทางพุทธศาสนาว่าอย่างไรบ้างคะ คือพอดีถึงปีชง ตัวเองก็รู้สึกว้าวุ่นใจ ทั้งๆที่ไม่มีอะไร จิตก็ตกไปเสียก่อน

Admin

Admin

ผู้ดูแล

Admin

Admin

ผู้ดูแล

7 ก.พ. 2561 23:45 #1

ปีชง ในความรู้สึกของคนคือ ปีที่มันชนกัน เหมือนมีอะไรมาปะทะให้เดือดร้อน

ถ้าปีชง แสดงว่า ทุกๆวัน 365 วัน ในปีชงนั้น ทุกวันก็ชงไปด้วย คือ เครียมมีเรื่องเดือดร้อนใจไปด้วย แสดงว่า ไม่มีฤกษ์ดี เวลาดี

-------------------------

พระพุทธเจ้าสอนว่า " คิดดี พูดดี ทำดีตอนไหน ก็เป็นฤกษ์ดี เวลาดี ขณะดี ตอนนั้น"



และเมื่อราตามรักษาจิต กรรมทางกาย กรรมทางวาจา กรรมทางใจ ก็เป็นอันรักษา

เมื่อดูจิต ก็มีผลต่อความคิด คำพูด และการกระทำ ให้เป็นไปในทางที่ดี

สร้างสรรค์สิ่งที่ดีต่อตนและคนอื่น

ก็ชื่อว่าเป็นฤกษ์ดี เวลาที่ดี ขณะที่ดี ของคนนั้น

-----------------------------

เมื่อดูจิต เราเรียนรู้เรื่องกระแสที่เชื่อมโยงกันทุกสิ่ง

เราจึงส่งกระแสที่ดี แผ่เมตตาจากจิตออกไป

ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ใคร พ่อแม่ ครอบครัว ที่ทำงาน ญาติสนิท

มิตรที่รัก และประเทศชาติ บรรพบุรุษ

ให้ผู้รักษาแผ่นดินที่อาศัย เรียกว่ารู้จักบุญคุณทั้งคนอยู่และจากไป

--------------------

ส่วนเรื่องคนที่ชอบและไม่ชอบ

อันนี้สำคัญ .. คนที่ชอบ ก็ไม่ชอบได้ ถ้าผิดใจกัน

และคนที่ไม่ชอบ ก็ชอบได้ ถ้าอโหสิซึ่งกันและกัน

เราจึงแผ่เมตตา ไม่มีเวรภัยกับใคร

และอโหสิกับทุกคน คือกการให้อภัย มีความหมายที่สำคัญ

คือไม่เก็บภัยไว้กับตัวเอง

-----------------------

นี่คือสิ่งสำคัญ ถ้าไม่อโหสิ คือไม่ให้อภัย

ไม่ให้อภัย คือจะเก็บภัยไว้กับตนเอง

มันจะเก็บภัยเวรไว้ภายใน

และมันจะดึงสิ่งที่เป็นภัยเวรเข้ามา

เมื่อเราดูจิต แผ่เมตตา อโหสิ

จึงมีแต่การดึงสิ่งที่ดีเข้ามา

สิ่งนี้ไม่เลือกกาล เลือกเวลา ทำได้ตลอด และดีตลอด

มีเวลาดี ขณะดี ในช่วงปีที่ชง ที่คนบอกกัน

------------------

แต่คนที่อยู่ข้างนอก ปล่อยตัวตามยถากรรม คือเหตุแห่งกรรมแต่ละคนที่เข้ามา

พอเรื่องมา ก็รับเข้าเต็มๆ เหมือนขอนไม้ลอยน้ำมา กระแทกใส่คนกำลังเล่นน้ำ ไม่มีอะไรป้องกัน

------------

เราดูจิต แผ่เมตตา ไปช่วยคนให้ฝึกจิต ให้แผ่เมตตา ขยายต่ออกไป นี่เป็นกุศล

เหตุที่เข้ามา .. จะหนัก ก็เป็นเบา ทุเลา ก็เป็นหาย

ดีอยู่แล้วก็ดียิ่งขึ้น

เหมือนน้ำน้อย ใส่เกลือก็เค็ม พอเติมน้ำมาก ก็เจือจาง

น้ำยิ่งมาก ก็ยิ่งเจือจาง

เราเติมน้ำคือกุศลไปตลอดเวลา

บอกสอนคนให้ฝึกจิต ที่สำคัญ ด้วยเมตตาจากข้างใน

ด้วยความปรารถนาดี ให้คนมีที่พึ่ง

นี่เรียกว่า เราเจอเรื่องให้เหนื่อย ให้ลำบากใจ ต้องอดทน

เพราะเราไม่สะดวก ไม่ว่าง หรืออื่นๆ

แต่เพราะน้อมพอใจไปทำเอง จึงไม่รุ้สึกเหนื่อย ลำบาก หรืออึดอัด

เปลี่ยนสิ่งที่เข้ามาเป็นกุศลแทน

เราบอกเขา สอนเขา เราเลยได้ทำด้วย เตือนตัวเราด้วย

เราจึงดีขึ้นไปตามลำดับ นี่เรียกว่า มีฤกษ์ดีอยู่ตลอด ช่วงเวลาดีมีกุศลอยู่ตลอด

------------

เหมือนมีหน้าร้อน ฝน หนาว ที่ต้องเจอ

แต่มีเสื้อคลุม มีเครื่องป้องกัน

กันร้อน กันฝน กันหนาว ทำให้เดินผ่านช่วงเวลาต่างๆได้อย่างมีความสุข

เรามีเสื้อคลุมแห่งธรรมะ เป็นที่พึ่ง เป็นเครื่องปัองกัน

ทำให้เราเดินผ่านช่วงเลาที่เข้าชน มาปะทะ

ไม่ว่าเวลาใด แต่เราก็เปลี่ยนเป็นความสุขด้วยจิตที่ฝึกดีแล้ว

ธรรมะย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม

---------------------

พระอาจารย์สุรพจน์ สัทธาธิโก

Admin

Admin

ผู้ดูแล

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้