ตารางการแสดงธรรม

ดูจิต ตามแนวทางมหาสติปัฏฐาน 4 อริยมรรคมีองค์ 8

วิธีการดูจิต แบบง่ายๆ ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ตามแนวทางมหาสติปัฏฐานสี่ อริยมัคค์มีองค์แปด

การที่เรา ดูแลรักษาจิต .. อยู่กับปัจจุบัน พิจารณาเห็นความจริงอยู่เสมอ จะเห็นว่า อารมณ์ทั้งหลายที่เข้ามา .. ดับไปเป็นธรรมดา.. คือ เป็นธรรมดาที่ต้องดับ เมื่อเข้าใจอย่างนี้ จึงอยู่กับเรื่องราวของโลก แต่อยู่เหนือเรื่องราวเหล่านั้น เพราะโลกนี้ พระพุทธองค์บัญญัติไว้เพียง กาย กับ ใจ จิตที่หลุดพ้นจากกายและใจ จึงหลุดพ้นจากโลกนี้เช่นกัน

พระอาจารย์ครับ ฐานจิตนี้จำเป็นจะต้องอยู่ที่กลางหน้าอกเท่านั้นหรือเปล่าครับ

ที่บอกว่าฝึกได้ตลอดนี้ หมายความว่า ลืมตาก็ได้ หลับตาก็ได้หรือเปล่าคะ

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าดูจิตขณะนั้นเป็นสมถะหรือวิปัสสนา หรือ สิ่งนั้นจะใช่จิตจริงหรือเปล่าคะ?

ธรรมทั้งปวง ล้วนไม่ควรยึดมั่น

วงจรกระแสจิต

มหาสติปัฏฐาน 4 อริยมรรคมีองค์ 8 คืออะไร

ทำในใจ ทำอย่างไร

กราบนมัสการครับ มีคำถามว่าเวลาฝึกจิต .. ดูจิตในห้องรู้สึกทำได้ แต่เวลาทำงานจริงในห้อง ICUมีกระแสเวทนาคนไข้และทุกอย่างเร็วมากๆ.. ตั้งจิตไม่ค่อยได้พระอาจารย์มีคำแนะนำอย่างไรครับ

ถ้าตั้งจิตได้แข็งแรง เป็นมหาสติแล้ว การดูกิเลส ควรรีบละ หรือควรดูจนมันหายไปครับ?

นั่งสมาธิกำหนดจิตที่ฐาน ปัจจุบัน ดิ่งลงเร็วมาก พบความว่าง และสิ่งที่เหลืออยู่ในความว่าง ผมควรพิจารณา สิ่งที่เหลืออยู่ในความว่าง หรือไม่ครับ?

ช่วงหลังๆเวลาที่ไม่ได้อยู่กับปัจจุบันข้างในมันระลึกทัน .. สภาพไม่อยู่กับปัจจุบันดับแล้วมารวมลงที่ฐานจิต ทำให้รู้ว่าอยู่กับปัจจุบันจิตไม่ง่ายเลยกราบเรียนขอคำแนะนำเพิ่มเติมครับหรือต้องวางใจว่า เห็นแค่การเกิดและดับไปแบบนี้ไปโดยไม่ต้องไปตั้งใจอยู่กับปัจจุบันจิตมากนักครับ

มีคนถามว่า เกิดความลังเลสงสัย รู้สึกเหมือนมีสภาวธัมม์เกิดจริง แต่ก็มีความคิดว่าจริงหรือเปล่า พอดูจิตก็เหมือนถูกดึงกลับเข้ามา ความสงสัยก็หายไป สลับกันไปอย่างนี้ครับ

กราบเรียนถามพระอาจารย์ว่า ทำอย่างไร เราถึงจะเรียกว่า รู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง จะได้มีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลาคะ

การเกิด .. มันก็ดับไปทีละขณะๆ เมื่อดับเหตุแห่งการเกิดได้ จึงพ้นจากความตาย

ที่สุด เราต้องจากกัน ที่เจอกัน เพื่อจะจากกัน พวกเราเป็นนักท่องเที่ยว ท่องเที่ยวในวัฏฏสงสารอันยาวนาน

พอเราได้ฝึกจิต รู้สึกไปที่กลางหน้าอกบริเวณลิ้นปี่เนืองๆ มีที่พึ่งที่เกาะภายใน เหมือนคนจะจมน้ำ แต่มีห่วงยางเกาะไว้ ไม่จมไปในห้วงน้ำ ถึงว่ายไม่เก่ง แต่ก็ไม่จม

จับหลักตรงนี้ก่อน.. จิตก็อยู่ส่วนจิต ความคิดก็อยู่ส่วนความคิด จิตไม่ใช่ความคิด ความคิดไม่ใช่จิต

หลวงพ่อครับ ช่วงหลังจิตตื่นรู้เกือบตลอดวัน แม้ขณะนอนมันก็ตื่นรู้เอง เห็นขันธ์ห้าเกิด-ดับ เห็นผู้รู้เกิด-ดับ ..จิตอยู่กับอุเบกขา  ..ผลที่ได้คือ สติสัมปชัญญะในมหาสติ หรือจะเรียกว่าเหลือแต่มหาสติกับปัญญาในฐานจิตก็ได้

กราบนมัสการครับ พอจิตเข้าสู่ทางสายกลางที่ฐานจิต.. มันจะเห็นขันธ์ห้าเกิดดับและผู้รู้เกิดดับ จิตที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ระหว่างผู้รู้และขันธ์ห้า ในมหาสติ จะอยู่แค่ปัจจุบัน ..จะไม่ดึงอดีตหรืออนาคตมาดังนั้นเรื่องราวที่เป็นภาระทางโลกที่จำเป็นต้องทำทีหลังจึงถูกเพิกออกทำให้เหมือนลืมแต่แท้จริงแล้ว มันเพิกออกจากทั้งสภาวธัมม์ในทางสายกลางและเพิกออกเพราะจิตน้อมสู่สภาวะดิ่งลงภวังค์จิต มันเหลือแค่มหาสติกับปัญญาในปัจจุบันสภาพธัมม์จะตั้งมั่น  ขยายออกเอง โดยไม่ต้องไปทำอะไรเหมือนไม่ต้องทำอะไร แค่อยู่ในทางสายกลางที่ประกอบองค์มัคค์ ..สำหรับทางโลกคง ต้องจดบันทึก ไม่อย่างนั้นจิตจะเพิกเรื่องราวออกไปครับ

มีคนถามว่า เกิดความลังเลสงสัย รู้สึกเหมือนมีสภาวธัมม์เกิดจริง แต่ก็มีความคิดว่าจริงหรือเปล่า พอดูจิตก็เหมือนถูกดึงกลับเข้ามา ความสงสัยก็หายไป สลับกันไปอย่างนี้ครับ

กราบเรียนถามพระอาจารย์ว่า ทำอย่างไร เราถึงจะเรียกว่า รู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง จะได้มีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลาคะ

ที่สุด เราต้องจากกัน ที่เจอกัน เพื่อจะจากกัน พวกเราเป็นนักท่องเที่ยว ท่องเที่ยวในวัฏฏสงสารอันยาวนาน

พอเราได้ฝึกจิต รู้สึกไปที่กลางหน้าอกบริเวณลิ้นปี่เนืองๆ มีที่พึ่งที่เกาะภายใน เหมือนคนจะจมน้ำ แต่มีห่วงยางเกาะไว้ ไม่จมไปในห้วงน้ำ ถึงว่ายไม่เก่ง แต่ก็ไม่จม

จับหลักตรงนี้ก่อน.. จิตก็อยู่ส่วนจิต ความคิดก็อยู่ส่วนความคิด จิตไม่ใช่ความคิด ความคิดไม่ใช่จิต

รู้สึกไปที่ ฐานทั้ง 4 เราตามรักษาจิตไปเนืองๆ เราดูจิตไปใน ฐานทั้ง 4 คือ กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธัมม์ในธัมม์

เรื่องเล่า

ถ่ายทอดสดรายการฝึกจิตพิชิตใจ ถวายองค์ราชัน ล้านดวงใจถวายแม่ของแผ่นดิน ทาง Travel Radio FM104.5 MHz.

หลังจากที่หลวงพ่ออธิบายเรื่องสมาธิ 4 แบบ มีน้องคนหน่ึงถามขึ้นมาว่า เขาปฏิบัติอยู่ตลอด โดยการบริกรรมภาวนา เช่น มีอาการปวดเกิดขึ้นที่ขา ก็เห็นว่ามีความปวดเกิดขึ้นแล้วก็บริกรรมในความปวดนั้น หลังจากนั้นก็เห็นว่าความปวดหายไป 

เรื่องราวของเด็กหญิงที่ถูกน้ำร้อนลวกในโรงพยาบาล ..

มีคนไข้คนหนึ่ง ตอนนั้นเขาเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย .. คนไข้มะเร็งระยะสุดท้าย โดยปกติสำหรับการรักษาก็จะไม่ทำอะไรให้กับคนไข้รุนแรงมาก ก็รักษาตามอาการไป

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้